ในความเป็นจริงแล้ว กองทุนสามารถแบ่งออกได้เป็นหลากหลายประเภทมากๆ โดยอาจจะแบ่งแยกตามลักษณะการลงทุน ความเสี่ยง หรือแม้แต่ประเภทสินทรัพย์ที่ไปลงทุน
โดยกองทุนรวมในไทย จะถูกแบ่งตามความเสี่ยง โดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ 8 ประเภท ตามลักษณะของทรัพย์สินหลักที่กองทุนรวมเน้นลงทุน ดังนี้
- ความเสี่ยงต่ำ (ระดับ 1)
- ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ (ระดับ 2-4)
- ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (ระดับ 5)
- ความเสี่ยงสูง (ระดับ 6-7)
- ความเสี่ยงสูงมาก (ระดับ 8)
ความเสี่ยงต่ำ (ระดับ 1)
- กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
โดยมุ่งลงทุนในเงินฝาก พันธบัตร ซึ่งมีอายุไม่เกิน 1 ปี
ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ (ระดับ 2-4)
- กองทุนรวมตลาดเงิน
โดยลงทุนในเงินฝาก พันธบัตร ซึ่งมีอายุไม่เกิน 1 ปี โดยลงทุนในต่างประเทศ ไม่เกิน 50% ของ NAV - กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
โดยลงทุนในพันธบัตรเฉลี่ยในรอบปี เกินกว่า 50% ของ NAV - กองทุนรวมตราสารหนี้
โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้โดยมี non-investment grade bond ไม่เกิน 20% ของ NAV
ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (ระดับ 5)
- กองทุนรวมตราสารหนี้
โดยลงทุนในพันธบัตร และหุ้นกู้โดยมี non-investment grade bond อยู่ 20% – 60% ของ NAV - กองทุนรวมผสม
โดยลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และ/หรือ สินทรัพย์ทางเลือก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ไม่เกิน 80% ของ NAV
ความเสี่ยงสูง (ระดับ 6-7)
- กองทุนรวมตราสารหนี้
โดยลงทุนในหุ้นกู้เป็นหลัก โดยมี non-investment grade bond เกินกว่า 60% - กองุทนรวมผสม
โดยลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และ/หรือ ทรัพย์สินทางเลือก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน มากกว่า 80% ของ NAV - กองทุนรวมตราสารทุน
โดยลงทุนในตราสารทุนเฉลี่ยในรอบปี มากกว่า 80% ของ NAV - กองทุนรวมหุ้นระยะยาว
โดยลงทุนในตราสารทุนเฉลี่ยในรอบปี มากกว่า 65% ของ NAV - กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
โดยลงทุนในตราสารทุนเน้นบางหมวดอุตสาหกรรม เฉลี่ยในรอบปี มากกว่า 80% ของ NAV
ความเสี่ยงสูงมาก (ระดับ 8)
- กองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก
โดยลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก เช่น น้ำมัน ทองคำ เฉลี่ยในรอบปี มากกว่า 80% ของ NAV
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก E-book : กองทุนรวม ประตูบานแรกสู่การลงทุน จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
แชร์บทความ ส่งต่อความรู้